นักวิจัยออสเตรเลียใช้ AI ตรวจจับ ‘ไขมันในช่องท้อง’ จากการสแกนกระดูก

---

(รูปจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ : นักวิจัยทำงานในห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ เมืองบริสเบนของออสเตรเลีย วันที่ 1 เม.ย. 2020)

ซิดนีย์, 5 ก.ย. (ซินหัว) — มหาวิทยาลัยอีดิธ โคแวนของออสเตรเลีย เผยว่านักวิจัยในออสเตรเลียกำลังพัฒนาอัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถประเมินไขมันในช่องท้อง ซึ่งเป็นไขมันอันตรายที่ซ่อนอยู่ลึกภายในร่างกาย จากการสแกนวัดความหนาแน่นของกระดูกที่ปกติใช้ตรวจหาการแตกหักของกระดูกสันหลัง

รายงานระบุว่าไขมันในช่องท้องหุ้มอยู่รอบอวัยวะต่างๆ ถือเป็นตัวปัญหาที่เกี่ยวข้องอย่างมากกับโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง

ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยกำลังฝึกอัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่องจักรให้สามารถวิเคราะห์ภาพสแกนกระดูกสันหลังด้านข้างจากการตรวจวัดความหนาแน่นมวลกระดูกโดยใช้รังสีเอกซ์พลังงานต่ำ 2 พลังงาน (DXA) เพื่อคาดการณ์ระดับไขมันในช่องท้องได้อย่างแม่นยำ ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพใหม่ๆ ที่มีค่าโดยไม่ต้องมีการตรวจเพิ่มเติม

ทีมวิจัยระบุว่า วิธีประเมินไขมันในช่องท้องที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เช่น ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) เส้นรอบเอว และอัตราส่วนเอวต่อสะโพกนั้นมีข้อจำกัด เพราะไม่สามารถแยกชนิดของไขมันในร่างกายได้ ส่งผลให้การประเมินภาวะอ้วนขาดความสม่ำเสมอ ขณะที่เทคนิคถ่ายภาพอย่างเครื่องเอ็มอาร์ไอ (MRI) และซีที (CT) จะให้ผลที่แม่นยำ แต่กลับมีค่าใช้จ่ายสูง และในกรณีของซีทียังทำให้ผู้ป่วยได้รับรังสีมากกว่าอีกด้วย

ไซเอ็ด ซุลการ์ไนน์กิลานี อาจารย์อาวุโสและนักวิทยาศาสตร์ด้านปัญญาประดิษฐ์ ระบุว่าโมเดลดังกล่าวผ่านการฝึกจากภาพนับพันแล้ว ขั้นต่อไปคือการนำชุดข้อมูลจากทั่วโลกมาเสริม เพื่อให้ระบบเรียนรู้จากกลุ่มข้อมูลที่ใหญ่และหลากหลายที่สุด พร้อมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด