ทำ 5 อย่างนี้เป็นประจำ มะเร็งลำไส้มาเยือนแน่ รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน

หลายคนคิดว่ามะเร็งลำไส้ต้องรออายุเยอะหรือมีประวัติครอบครัวเท่านั้นถึงจะเป็น แต่จริง ๆ แล้ว “พฤติกรรมเล็ก ๆ ที่ทำทุกวัน” ต่างหากคือสิ่งที่ค่อย ๆ ทำให้ลำไส้อักเสบเรื้อรัง เซลล์โดนทำร้ายซ้ำ ๆ จนกลายเป็นมะเร็งได้แบบเงียบ ๆ เพราะลำไส้เป็นอวัยวะที่ซ่อมแซมตัวเองตลอดเวลา ยิ่งมีการอักเสบสะสมมากขึ้นเท่าไหร่ ความผิดพลาดของเซลล์ก็ยิ่งเกิดง่ายครับ วันนี้เรามาลองเช็ก 5 พฤติกรรมนี้ดูว่าทำอยู่บ่อยแค่ไหน ถ้าใครยังทำอยู่ อาจถึงเวลาปรับก่อนสายนะครับ
1️. กินเนื้อแปรรูป–ของย่างไหม้บ่อยเกินไป
ใครที่ชอบกินพวกไส้กรอก แฮม เบคอน หมูกระทะ ปิ้งย่างที่ไหม้จนดำ ของพวกนี้เป็นตัวกระตุ้นการอักเสบของลำไส้แบบชัดเจนครับ เพราะผ่านการปรุงด้วยความร้อนสูง ทำให้เกิดสาร ไนไตรท์–ไนเตรต, HCA, PAH ซึ่งเป็นสารก่อกลายพันธุ์ที่ทำร้ายผนังลำไส้โดยตรง ยิ่งกินถี่ ลำไส้ยิ่งซ่อมตัวเองไม่ทัน เกิดเป็นแผลเล็ก ๆ สะสมจนกลายเป็นติ่งเนื้อและเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง ถ้าชอบเนื้อย่างจริง ๆ แนะนำให้เลี่ยงส่วนที่ไหม้และไม่กินติด ๆ กันหลายวันครับ


2️. ท้องผูกเรื้อรัง ปล่อยของเสียค้างในลำไส้นานเกินไป
หลายคนคิดว่าถ่าย 2–3 วันครั้งเป็นเรื่องปกติ แต่จริง ๆ นี่คือสัญญาณว่า ของเสียค้างนานจนสารพิษดูดซึมย้อนกลับเข้าสู่ร่างกาย อุจจาระที่ค้างนานจะเกิดสารพิษจากแบคทีเรีย (Endotoxins) ที่ทำให้เยื่อบุลำไส้อักเสบ และเร่งให้เซลล์เปลี่ยนแปลงผิดปกติ ถ้ามีอาการท้องผูกเรื้อรัง ท้องอืด แน่นง่าย หรือรู้สึกถ่ายไม่สุดบ่อย ๆ แปลว่าลำไส้ของเรากำลังเสี่ยงครับ


3️. กินหวานจัด–แป้งขัดขาวทุกวัน จนน้ำตาลพุ่งแบบไม่รู้ตัว
น้ำตาลสูงทำให้ลำไส้อักเสบเร็วมาก เพราะอินซูลินที่แกว่งจะรบกวนจุลินทรีย์ดี ทำให้เกิดภาวะ ลำไส้รั่ว (Leaky Gut) เมื่อผนังลำไส้รั่ว ของเสียเล็ก ๆ จะเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด เพิ่มการอักเสบทั้งตัว และบีบให้ลำไส้ซ่อมแซมตลอดเวลา การซ่อมแซมเร็วเกินไปคือจุดเริ่มต้นของการกลายพันธุ์ของเซลล์ครับ คนที่กินหวาน–ของทอด–ชาไข่มุก–เครื่องดื่มน้ำตาลสูงทุกวัน ความเสี่ยงจะขึ้นอย่างเงียบ ๆ โดยไม่รู้ตัวเลยครับ


4️. นั่งนานทั้งวัน ไม่ค่อยเดิน ไม่ค่อยขยับ
การนั่งนานเกิน 6–8 ชม./วัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงลำไส้น้อยลง การบีบตัวของลำไส้ช้าลง และทำให้ของเสียค้างในทางเดินอาหารนานขึ้น เมื่อของเสียค้าง + การไหลเวียนไม่ดี = อักเสบสะสมอย่างต่อเนื่อง หลายคนทำงานออฟฟิศ นั่งทั้งวัน แล้วมีอาการท้องอืดง่าย ถ่ายไม่ดี หรือแน่น ๆ ช่วงบ่าย นี่คือสัญญาณว่าลำไส้กำลังล้าและเริ่มเสี่ยงครับ


5️. เครียดสะสม–นอนไม่พอ จนระบบลำไส้รวน
ความเครียดทำให้ร่างกายหลังคอร์ติซอลสูง ซึ่งไปรบกวนการซ่อมเยื่อบุลำไส้ ทำให้ลำไส้รั่วง่าย จุลินทรีย์ดีลดลง และทำให้อักเสบเร็วกว่าปกติ ถ้าซ้ำด้วยการนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง ระบบลำไส้จะซ่อมแซมไม่ได้เต็มที่ ความเสียหายจึงสะสมเรื่อย ๆ หลายคนมักเริ่มจากท้องอืด เครียดง่าย ลำไส้แปรปรวน จนสุดท้ายกลายเป็นลำไส้อักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นพื้นฐานของมะเร็งลำไส้ครับ


วิธีลดความเสี่ยงง่าย ๆ ที่ทำได้ทันที
เหมือนกับลำไส้กำลังส่งสัญญาณเตือนว่า “เหนื่อยแล้วนะ” ซึ่งเราช่วยมันได้ทันทีด้วยการปรับง่าย ๆ แบบนี้ครับ
• ลดเนื้อแปรรูป–ของย่างไหม้ เลือกอบ–นึ่ง–ตุ๋นแทน
• กินผักทุกมื้อ ให้ไฟเบอร์วันละ 400–600 กรัม
• ดื่มน้ำให้ถึง 6–8 แก้ว ช่วยให้ถ่ายดีขึ้น
• เดินหลังอาหาร 10–15 นาที ช่วยลดทั้งน้ำตาลและอักเสบ
• นอนให้ถึง 6–8 ชั่วโมง เพื่อให้ลำไส้ซ่อมแซมเต็มที่
• ลดเครียดด้วยการหายใจลึก ๆ 3–5 นาทีต่อวัน
• อย่าลืมเสริมการทำงานลำไส้ให้แข็งแรง ด้วยการเติมจุลินทรีย์ดีอย่างโพรไบโอติกเข้าไปด้วยนะ และถ้ามีประวัติครอบครัว ควรส่องกล้องตามคำแนะนำแพทย์นะครับ


แม้มะเร็งลำไส้จะเป็นโรคที่พัฒนาอย่างช้า ๆ แต่พฤติกรรมที่ทำทุกวันต่างหากเป็นตัวกำหนดว่า “ลำไส้ถูกทำร้ายมากแค่ไหน” ถ้าเริ่มเจออาการท้องอืดเรื้อรัง ถ่ายผิดปกติ ปวดท้องเป็น ๆ หาย ๆ หรือรู้สึกว่าร่างกายไม่เหมือนเดิม อย่าปล่อยผ่านครับ ลองปรับพฤติกรรมเหล่านี้ก่อน แล้วค่อยไปตรวจคัดกรองเพื่อความชัดเจน ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งป้องกันได้ทันครับ

 


ขอบคุณข้อมูลจาก facebook หมอเจด


นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์