
ใครกำลังเจอกับอาการปวดตามข้อ เจ็บตามข้อต่อต่างๆ จนใช้ชีวิตลำบากอยู่บ้าง เชื่อได้เลยว่าอาการปวดที่สร้างความทรมานให้ร่างกายเหล่านี้ ทำให้หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าอาการปวดตามข้อที่เป็นอยู่คืออาการปวดของโรคอะไรหรือไม่ หรือมีสาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าอาการปวดข้อที่ทุกคนเป็นอยู่นั้นอาจกำลังส่งสัญญาณของโรคอะไรให้เรารับรู้ได้บ้าง
สาเหตุของอาการปวดตามข้อ เกิดจาก ?
อาการปวดข้อ (Joint Pain) เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งอาจเกิดได้ทั้งจากการออกกำลังกายที่ทำให้เอ็น หรือกล้ามเนื้อบริเวณข้อต่ออักเสบ เป็นไข้หวัด ติดเชื้อไวรัส ที่ทำให้รู้สึกปวดเมื่อยข้อและตัว หรือแม้กระทั่งจากโรคบางโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบบริเวณข้อต่อต่างๆ ได้ ซึ่งจุดที่มักเกิดอาการปวดส่วนมากจะพบเจอที่บริเวณไหล่ คอ หลัง ข้อมือ ข้อนิ้วมือ ข้อเท้า ข้อนิ้วเท้า สะโพก หรือข้อศอก เป็นต้น
โดยอาการปวดข้อนั้นสามารถเกิดอาการขึ้นที่จุดเดียว หรืออาจเกิดขึ้นหลายจุดพร้อมๆ กันก็ได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้หากพบว่ามีอาการปวดข้อหลายๆ จุดพร้อมกัน หรือปวดข้อจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อาการปวดเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนจากโรคต่างๆ ได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่อาการปวดตามข้อ หรือปวดเมื่อยตามข้อ มักบ่งชี้ถึงโรคเหล่านี้ได้
ปวดตามข้อ หรือปวดเมื่อยตามข้อ อาการแบบนี้เสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง
1.โรครูมาตอยด์
รูมาตอยด์เกิดจาก รูมาตอยด์จัดเป็นโรคข้อต่ออักเสบเรื้อรังชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดการอักเสบของข้อต่อขึ้น ส่งผลให้มีการทำลายตัวเองของกระดูกอ่อน กระดูกรอบข้อ และเนื้อเยื่อรอบข้อ
อาการของรูมาตอยด์ : คนที่ปวดตามข้อที่เกิดจากโรครูมาตอยด์มักมีอาการข้ออักเสบ ปวด บวมตามข้อนิ้วมือและข้อมือ ซึ่งจะเป็นมากขึ้นในตอนกลางคืน และในตอนเช้าหลังตื่นนอนมักพบว่าข้อฝืด ตึง ขยับนิ้วลำบาก และเป็นได้นานกว่า 6 สัปดาห์ ในบางรายที่มีอาการเรื้อรังอาจทำให้ข้อนิ้วเกิดพิการผิดรูป เอ็นและกล้ามเนื้อรอบข้ออ่อนแรงและหย่อนยานจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้
2.โรคเก๊าท์
เก๊าท์เกิดจาก โรคเก๊าท์เป็นอีกโรคที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของโรคข้ออักเสบ โดยมีสาเหตุเกิดจากพันธุกรรมและการได้รับโปรตีนพิวรีน (Purine) มากเกินไป จนเกิดสะสมเป็นตะกอนในข้อต่อมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ข้อหรือเนื้อเยื่อรอบๆ เกิดการอักเสบแบบเฉียบพลัน
อาการของเก๊าท์ โดยปกติอาการปวดตามข้อจากโรคเก๊าท์จะมีอาการอักเสบ ปวด บวมแดงและรู้สึกร้อนบริเวณข้ออย่างเฉียบพลันทันที แต่ทั้งนี้อาการของโรคเก๊าท์มีทั้งหมด 3 ระยะ ในระยะแรกข้อจะอักเสบเฉียบพลันซึ่งจะมีอาการปวด บวมแดงและร้อน ถัดมาจะเป็นระยะไม่มีอาการ หรือระยะเป็นซ้ำ เป็นช่วงที่อาการจะเว้นช่วงหายไปแต่เมื่ออาการเกิดซ้ำก็จะรุนแรงมากขึ้น และระยะสุดท้ายหรือระยะเรื้อรังที่จะมีจำนวนข้ออักเสบมากขึ้น อาการบวมและขนาดของก้อนตามข้อก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ และอาจพบของเหลวไหลซึมออกที่ผิวหนังได้
3.ข้อเข่าเสื่อม
ข้อเข่าเสื่อมเกิดจาก : ข้อเข่าเสื่อมมีสาเหตุการเกิดได้หลายปัจจัย โดยส่วนมากมักมาจากเรื่องของอายุที่มากขึ้น แต่ก็ยังมีปัจจัยที่เร่งให้เกิดข้อเข่าเสื่อมได้ เช่น การใช้งานข้อเข่ามากเกินไป ทำกิจกรรมที่มีแรงกดที่เข่ามากๆ เป็นประจำอย่างการเล่นกีฬา เช่น การวิ่ง นั่งงอเข่านานๆ หรือขึ้นลงบันไดสูงๆ
อาการของข้อเข่าเสื่อม มักมีอาการปวดและบวมบริเวณข้อเข่า ซึ่งจะรู้สึกได้ชัดเจนเมื่อต้องงอ หรือเหยียดเข่าในการทำกิจกรรมต่างๆ โดยระยะแรกผู้ป่วยจะยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่จะปวดตามข้อเข่าหนักขึ้นเมื่อใช้งานหนัก ระยะที่ 2 จะเริ่มปวดหนักขึ้นเมื่อใช้ข้อเข่าหนักๆ หรือจะเริ่มรับแรงที่กดลงไม่ค่อยได้ ปวดมากขึ้น ระยะที่ 3 อาการปวดมากขึ้นจนเริ่มใช้ชีวิตลำบาก และระยะสุดท้ายคือผู้ป่วยไม่สามารถเดินได้เหมือนเดิม
4.โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)
โรคแพ้ภูมิตัวเองเกิดจาก โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรคพุ่มพวง เป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดในการเกิด แต่พบว่ามีหลายปัจจัยร่วมกันที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้ทั้งพันธุกรรม แสงแดด ความเครียดสะสม ฮอร์โมนเพศหญิง การตั้งครรภ์ การติดเชื้อไวรัส หรือเชื้อโรคอื่นๆ การใช้ยา รวมไปถึงสารเคมีบางชนิด
อาการของโรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคภูมิแพ้ตัวเอง จะมีระดับความรุนแรงของอาการที่แตกต่างกัน อีกทั้งเมื่อเป็นแล้วรอยโรคจะคงอยู่และมีอาการเป็นๆ หายๆ อยู่ตลอด โดยอาการนั้นสังเกตได้จากผิวจะไวต่อแสงแดด มีผื่นขึ้นได้ง่ายบริเวณผิวหนังที่ได้รับแสงแดด มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีอาการอักเสบ ปวด บวมตามข้อ และอาจมีอาการข้อติด แข็ง ฝืด ตาแห้ง ปากแห้ง หายใจลำบากร่วมด้วยตามระดับความรุนแรงของโรค
แม้ว่าอาการปวดเมื่อยตามข้อ หรือปวดตามข้อจะฟังดูแล้วเป็นอาการเพียงเล็กน้อย แต่การปวดตามข้อเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคข้ออักเสบเรื้อรังต่างๆ หากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอาจสร้างความเจ็บปวดและใช้ชีวิตลำบากมากขึ้นได้ ดังนั้น หากมีอาการปวดตามข้อจนเริ่มใช้ชีวิตลำบากมากขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลวิมุต
https://www.vimut.com/article/Diseases-Caused-By-Joint-Pain