เปิดสัญญาณมะเร็งระยะแรก เผยความแตกต่างระหว่างมะเร็งและเนื้องอก

มะเร็งโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกปี สามารถพบได้ในผู้ป่วยทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ เช็กสัญญาณที่เป็นเรื้อรังเกิน 2สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์


“มะเร็ง” หรือทางการแพทย์เรียกว่า “เนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย” เป็นกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับการเจริญของเซลล์ที่มีความผิดปกติ คือ เซลล์จะแบ่งตัวและเจริญอย่างควบคุมไม่ได้ ก่อเป็นเนื้อร้าย และรุกรานไปยังอวัยวะส่วนข้างเคียง หรือแพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายที่อยู่ห่างไกล ผ่านระบบน้ำเหลืองหรือกระแสเลือด


เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงต่างจากมะเร็งอย่างไร
ไม่ใช่ว่าเนื้องอกทุกชนิดจะต้องเป็นมะเร็ง “เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง” (Benign tumor) เป็นเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็งเพราะเซลล์ของเนื้องอกชนิดนี้จะแบ่งตัวช้า และไม่ค่อยมีการแทรกตัวเข้าไประหว่างเซลล์ปกติไม่ค่อยมีการทำลายเซลล์ปกติใกล้เคียง และไม่สามารถแทรกตัวทะลุเข้าไปในหลอดน้ำเหลืองและหลอดเลือดได้ จึงทำให้ไม่มีโอกาสที่เซลล์เนื้องอกจะแพร่กระจายไปเติบโตเป็นก้อนเนื้อที่อวัยวะส่วนอื่นที่อยู่ไกลออกไปได้ เนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงสามารถผ่าตัดรักษาให้หายขาดได้


7 สัญญาณเตือนโรคมะเร็ง
• ระบบขับถ่ายผิดปกติ มีการเปลี่ยนแปลงในการถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ
• แผลเรื้อรังที่รักษาไม่หาย
• เลือดไหลผิดปกติตามทวารใดๆ ของร่างกาย
• คลำพบก้อนที่เต้านมหรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
• กลืนอาหารลำบากหรือระบบการย่อยผิดปกติ
• ไฝหรือหูดที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติหรือมีเลือดออก
•มีอาการไอที่ผิดปกติ เช่น ไอปนเลือด ไอเรื้อรัง หรือเสียงแหบ
หากมีอาการเหล่านี้มากกว่า 2สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ


ปัจจัยเสี่ยงโรคมะเร็ง
• มีพันธุกรรมผิดปกติ เป็นได้ทั้งพันธุกรรมที่ถ่ายทอดได้ หรือพันธุกรรมชนิดไม่ถ่ายทอด
• สูบบุหรี่ ดื่มสุรา
• ขาดสารอาหาร ขาดการกินผัก และผลไม้
• กินอาหารไขมัน และ/หรือเนื้อแดงสูงต่อเนื่องเป็นประจำ
• การสูดดมสารพิษบางชนิดเรื้อรัง เช่น สารพิษในควันบุหรี่ (สารก่อมะเร็ง หรือสัมผัสสารก่อมะเร็งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปริมาณสูง
• ร่างกายได้รับโลหะหนักเรื้อรังจากการหายใจ อาหาร และ/หรือน้ำดื่ม เช่น สารปรอท
• ติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น ไวรัส เอชไอวี (HIV) ไวรัส เอชพีวี (HPV)
• ติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น เชื้อเอชไพโลริในกระเพาะอาหาร (โรคติดเชื้อเอชไพโลไร)
• ติดเชื้อพยาธิบางชนิด เช่น พยาธิใบไม้ตับ
• การใช้ยาฮอร์โมนเพศต่อเนื่อง
• อายุมาก เพราะเซลล์ผู้สูงอายุมีการเสื่อม และการซ่อมแซมต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุให้เซลล์กลายพันธุ์ไปเป็นเซลล์มะเร็งได้
•ปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งมีหลายวิธี ได้แก่ ผ่าตัด รังสีรักษา ยาเคมีบำบัด ยาฮอร์โมน ยารักษาตรงเป้า รังสีร่วมรักษา และการรักษาประคับประคองตามอาการด้วยอายุรกรรมทั่วไป โดยผู้ป่วยแต่ละคนจะใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป บางรายอาจใช้วิธีรักษาเพียงวิธีเดียว บางรายจะต้องใช้วิธีการรักษาหลายวิธีร่วมกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะของโรค ชนิดของเซลล์มะเร็ง สุขภาพของผู้ป่วย

 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และ โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล : https://www.pptvhd36.com/health/care/6471