สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ จัดประชุมวิชาการภายใต้โครงการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา ๗๐ พรรษา และครบรอบ 35 ปี ของสถาบันฯ

www.medi.co.th


นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากนโยบายรัฐมตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข “ยกระดับระบบสุขภาพไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ” เดินหน้าเปลี่ยนระบบสุขภาพไทยให้เป็นระบบคุณภาพ เพื่อสุขภาพดีของประชาชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ มุ่งเน้นการพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่ครอบคลุม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการ “คืนชีวิตใหม่แก้ไขความพิการ” การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์จึงเป็นกลไกที่มีความสำคัญยิ่งในระบบสุขภาพของประเทศ โดยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ระบบสุขภาพไทยได้เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ความท้าทายทั้งจากโครงสร้างประชากรที่เข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ การเพิ่มขึ้นของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และความต้องการบริการสุขภาพที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาระบบฟื้นฟูสมรรถภาพและความต้องการบริการฟื้นฟูฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดที่มีความครอบคลุม เข้าถึงได้ และมีคุณภาพ กรมการแพทย์ได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบาย ในระดับโลก องค์การอนามัยโลก ได้ให้ข้อแนะนำที่ชัดเจนว่า การฟื้นฟูสมรรถภาพเป็นบริการสุขภาพที่สำคัญและจำเป็นไม่ใช่แค่การรักษา แต่คือ การบูรณาการการฟื้นฟูฯ เข้าไปในทุกระดับของระบบสุขภาพ ภาระโรค (Burden Disease) ที่สำคัญ กลุ่มโรคเหล่านี้ คือกลุ่มที่มีภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาและการดูแลระยะยาวสูงที่สุด และต้องการบริการฟื้นฟูฯ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) โรคไขสันหลังบาดเจ็บ โรคสมองบาดเจ็บ และโรคกระดูกสะโพกหักซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในผู้สูงอายุ ทั้งนี้ หากฟื้นฟูไม่ทันท่วงที จะนำไปสู่ภาวะติดเตียง ต้องพึ่งพิงญาติในการดูแล สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจครอบครัว


นายแพทย์เฉลิมพล ไชยรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กล่าวต่อว่า การพัฒนาการบริการตั้งแต่ระยะเฉียบพลัน ในรพ.ระดับA/S จึงเป็นสิ่งสำคัญ ให้มีบริการ เฉพาะในด้านโรคต่างๆ และเชื่อมโยงสู่ “การดูแลระยะกลาง” หรือ Intermediate Care (IMC) เพื่อเชื่อมโยงการดูแลอย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเป็น New S-Curve ภายในปี พ.ศ. 2570 กรมการแพทย์จึงขับเคลื่อนในสองบทบาทหลัก คือ บทบาทวิชาการและบทบาทด้านการผลักดัน ด้านนโยบาย เรามุ่งเน้นการขจัดอุปสรรคและสร้างกลไกเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการได้อย่างไร้รอยต่อ พัฒนาระบบบริการผู้ป่วยระยะกลาง


การเป็นกรมวิชาการและศูนย์กลางความเป็นเลิศ (Academic Center) การพัฒนา โรงพยาบาลยุคใหม่ (Modern Hospital) ที่เน้นความเป็นเลิศทางวิชาการและการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง การยกระดับสู่ Center of Excellence (COE) และ High Technology Medical Service เช่น จัดตั้ง ศูนย์ฝึกเดินด้วยหุ่นยนต์ (Robotic Gait Training Center) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการฝึกเดินในกลุ่มผู้ป่วยระบบประสาท พัฒนา ศูนย์ 3D Printing เพื่อผลิตกายอุปกรณ์ อย่างรวดเร็วและแม่นยำ การพัฒนาบุคลากรเฉพาะทาง (Training Center) การเป็นแกนหลักในการจัดทำ เพื่อให้การผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านฟื้นฟูฯ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ


ภารกิจในการสร้าง New S-Curve ด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ จะสำเร็จไม่ได้ด้วยการทำงานของกรมการแพทย์เพียงฝ่ายเดียว ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานด้านวิชาการ ได้แก่ ราชวิทยาลัยฯ สภา สมาคมต่างๆ และรพ.ในสังกัด
กระทรวงสาธารณสุข ให้ความร่วมมือด้านวิชาการ เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีและเป็นภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพ สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าร่วมการประชุมสาธารณสุขของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์กรมการแพทย์ในด้านพัฒนาศูนย์อ้างอิงวิชาการแพทย์แห่งชาติและตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ของสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูฯ ในการสร้างงานวิจัยและนวัตกรรมการแพทย์สู่นโยบายสาธารณสุข (Excellent Research & Innovation) อีกด้วย


#กรมการแพทย์ #สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูฯ #ประชุมวิชาการ ครบรอบ 35 ปี - ขอขอบคุณ -2 ธันวาคม 2568