
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข "ชัยชนะ เดชเดโช" เปิดตัว "Smart Healthcare TTM" แพลตฟอร์มภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรอัจฉริยะ นำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยวินิจฉัยโรคและให้คำแนะนำด้วยความแม่นยำและรวดเร็ว ลดระยะเวลาให้คำปรึกษาได้เฉลี่ย 5 นาทีต่อราย ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสุขภาพและสมุนไพรเบื้องต้นได้ทุกที่ ทุกเวลา คาดในปีแรก มีผู้ใช้งานไม่น้อยกว่า 100,000 ราย
วันนี้ (26 สิงหาคม 2568) ที่ โรงแรมไมด้า แอร์พอร์ต ดอนเมือง นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดตัวแพลตฟอร์มภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรอัจฉริยะ หรือ Smart Healthcare TTM โดยมี นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รศ.ดร. สุรพันธ์ ยิ้มมั่น รองอธิการบดีฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและพัฒนาธุรกิจศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ดร.วรรณศิริ พัวศิริ ผู้อำนวยการกองบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ ที่ปรึกษากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก คณะผู้บริหารจากภาครัฐและสถาบันการศึกษา เข้าร่วม
นายชัยชนะ กล่าวว่า การพัฒนาแพลตฟอร์ม Smart Healthcare TTM สอดรับกับวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ ด้วยการอนุรักษ์และต่อยอดภูมิปัญญาไทยให้เข้ากับยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาผสานกับภูมิปัญญาไทยดั้งเดิม เพื่อยกระดับการให้บริการแพทย์แผนไทย ซึ่งประกอบด้วย 2 ระบบหลัก ได้แก่ Panthai AI Doctor ระบบช่วยวินิจฉัยโรคและให้คำแนะนำด้านการแพทย์ แผนไทยด้วยความแม่นยำและรวดเร็ว ช่วยลดระยะเวลาในการให้คำปรึกษาได้เฉลี่ย 5 นาทีต่อราย สามารถวินิจฉัยอาการเบื้องต้น 5 กลุ่ม ได้แก่ ไข้หวัด ท้องอืด ลมพิษ/ผื่นคัน ปวดกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ และปัญหาเกี่ยวกับโลหิตระดูสตรี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของบุคลากรทางการแพทย์แผนไทย และ Panthai Chatbot แชตบอตสำหรับประชาชนทั่วไป ให้คำแนะนำสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทยที่เข้าใจง่าย ลดการใช้ศัพท์เฉพาะ เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา และยังสามารถวิเคราะห์ข่าวปลอมได้แม่นยำถึง 97% ช่วยประชาชนดูแลสุขภาพตนเองได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และยั่งยืน โดยคาดว่าในปีแรกจะมีผู้ใช้งานทั้ง 2 ระบบ ไม่น้อยกว่า 100,000 ราย
ด้าน นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า แพลตฟอร์ม Smart Healthcare TTM เป็นความร่วมมือระหว่างกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อให้เป็นนวัตกรรมดิจิทัลที่ช่วยยกระดับระบบบริการสุขภาพของไทยให้ทันสมัย ช่วยสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพให้กับประชาชน โดยใช้ฐานข้อมูลที่รวบรวมมาจาก Explicit Knowledge (ตำรา, งานวิจัย, กฎหมาย) และ Tacit Knowledge (องค์ความรู้จากหมอพื้นบ้านและแพทย์แผนไทยผู้ทรงคุณวุฒิ) ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ด้านการสาธารณสุข แต่ยังวางรากฐานสำคัญในการต่อยอด “เศรษฐกิจสุขภาพด้วยภูมิปัญญาไทย” อย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นต้นแบบของการผสมผสานวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เข้ากับภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยอันทรงคุณค่าได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าใช้งานระบบแชตบอต ได้ที่ https://panthaichatbot.in.th
