กรมวิทย์ฯ ถ่ายทอด “ผลิตภัณฑ์แฮร์โทนิคจากสารสกัดขิงและมะขามป้อม ความสำเร็จของการศึกษาวิจัยในห้องแล็บ ส่งต่อให้เอกชนนำไปต่อยอดระดับอุตสาหกรรม เพื่อผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ต่อไป

วันนี้ (20 สิงหาคม 2568) นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ นางสาวกิรัชฌา เหล่าวิวัฒน์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูมิ ดีพเทค จำกัด (UMI DEEPTECH) ลงนามในสัญญาการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์แฮร์โทนิคจากสารสกัดขิงและมะขามป้อม ระหว่าง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ บริษัท ยูมิ ดีพเทค จำกัด โดยมี นายแพทย์พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายสันตกิจ นิลอุดมศักดิ์ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสมุนไพร นางนพรัตน์ รุ่งอุทัยศิริ กรรมการ บริษัท ยูมิ ดีพเทค จำกัด และเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม 110 อาคาร 100 ปีการสาธารณสุขไทยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี


นายแพทย์ยงยศ เปิดเผยว่า ทีมนักวิจัยของสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้วิจัยศึกษาวิธีการเตรียมสารสกัดขิง (Ginger Extract) และสารสกัดมะขามป้อม (Emblica Extract) ที่มีความบริสุทธิ์สูง นำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต้นแบบจากสารสกัดขิงและมะขามป้อม ซึ่งพบว่า ผลิตภัณฑ์แฮร์โทนิคจากสารสกัดขิงและมะขามป้อมที่พัฒนา มีสรรพคุณช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมหลายประการ เช่น ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม กระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม ลดความมันบนหนังศีรษะ ลดอาการคัน และช่วยให้ผมดกดำเงางาม และได้ผ่านการประเมินด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในอาสาสมัครแล้ว โดยไม่ก่อให้เกิดการแพ้และระคายเคืองต่อหนังศีรษะ


นายแพทย์ยงยศ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้สกัดสารต่างๆ จากพืชประมาณ 30 ชนิด อาทิ มะหาด ฝาง กระท่อม และรางจืด ซึ่งมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงในการพัฒนาอุตสาหกรรมสุขภาพของประเทศต่อ โดยผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ปี 2564 มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์เจลล้างหน้าผสมสารสกัดมะหาด ปี 2567 มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรแฮร์โทนิคแคนนาบิไดออลและออกซีเรสเวอราทรอล ซึ่งเป็นสารสกัดจากกัญชาและมะหาด และในปี 2568 ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสารสกัดไมทราไจนีนจากพืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์แฮร์โทนิคจากสารสกัดขิงและมะขามป้อม และอยู่ระหว่างการถ่ายทอดอีกหลายผลิตภัณฑ์ อาทิ ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรพลูคาว มะขามป้อม รางจืด เทคโนโลยีการสกัดสารสกัดฝาง และสเปรย์แก้ปวดจากสารสกัดกระท่อม เป็นต้น


“กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีความร่วมมือกับภาคเอกชน ไม่ใช่เพียงแค่การถ่ายทอดเทคโนโลยีจากห้องปฏิบัติการสู่ภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความสำเร็จของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นจริงในสังคม เป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย เน้นย้ำหลักการทำงานของกรมวิทย์ฯ ว่า ต้องพิสูจน์ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ ปลอดภัย ไม่มีพิษและเกิดประโยชน์จริง เพื่อยกระดับสมุนไพรไทยสู่การยอมรับระดับสากล” นายแพทย์ยงยศ กล่าว


ด้าน นางสาวกิรัชฌา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท ยูมิ ดีพเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (UMI) ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่ายเครื่องสำอาง อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์สมุนไพร ได้มีความร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยมีทีมนักวิจัยที่มีศักยภาพสูงได้ทำการศึกษาวิจัยสมุนไพรไทยในห้องปฏิบัติการอย่างครบวงจร จนสามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์แฮร์โทนิคจากสารสกัดขิงและมะขามป้อมที่มีสรรพคุณในการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อจะได้นำเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่ได้รับถ่ายทอดนี้ไปผลิตจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ เป็นการนำผลงานวิจัยมาต่อยอดในระดับอุตสาหกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม ในนามแบรนด์ของคนไทย เพื่อการทำตลาดทั้งในประเทศและระดับสากล ส่งเสริมให้เกิด ความภาคภูมิใจในผลิตภัณฑ์ของไทย ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์นี้ได้มากยิ่งขึ้น และเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของสมุนไพรไทย ซึ่งคาดว่าผลิตภัณฑ์จะสามารถออกมาจำหน่ายในท้องตลาด ได้เร็วๆ นี้


 


20 สิงหาคม 2568