รพ.ธรรมศาสตร์ฯ – สปสช. ลงนามความร่วมมือ หนุนใช้ "อุปกรณ์สายสวนลากลิ่มเลือด" ผลิตในประเทศไทย

www.medi.co.th

รพ.ธรรมศาสตร์ฯ – สปสช. ลงนามความร่วมมือ “โครงการรักษาภาวะหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลัน ด้วยชุดอุปกรณ์สายสวนลากลิ่มเลือดในสมอง ในระบบบัตรทอง” หนุนใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ผลิตในประเทศ ราคาลดลงกว่าครึ่ง ประสิทธิภาพเทียมเท่าต่างประเทศ ช่วยผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินเข้าถึงการรักษาเพิ่ม พร้อมเปิด “ศูนย์ฝึกอบรมใช้อุปกรณ์รักษาผู้ป่วยภาวะหลอดเลือดอุดตันเฉียบพลัน” ให้แพทย์ทั่วประเทศ 

โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง โครงการรักษาภาวะหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลัน ด้วยชุดอุปกรณ์สายสวนลากลิ่มเลือดสำหรับหลอดเลือดในสมอง (Thrombectomy Device)  ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมี รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นผู้ลงนามฯ นอกจากนี้ยังมี ศ.นพ.สมบัติ มุ่งทวีพงษา รองคณบดีฝ่ายบริการสุขภาพและวิชาการ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ร่วมลงนามเป็นพยาน

รศ.นพ.ดิลก กล่าวว่า อุปกรณ์สายสวนลากลิ่มเลือดสำหรับหลอดเลือดในสมอง เป็นหนึ่งในเครื่องมือแพทย์ที่จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลัน ซึ่งเดิมทีอุปกรณ์นี้โรงพยาบาลจะต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ มีราคาสูงถึง 1 – 2 แสนบาท โดยในส่วนผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ทางโรงพยาบาลก็จะเบิกค่าชดเชยจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตามหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายที่กำหนด อย่างไรก็ดี จากความร่วมมือโครงการรักษาภาวะหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลันด้วยชุดอุปกรณ์สายสวนลากลิ่มเลือดสำหรับหลอดเลือดในสมองฯ นี้ จะสนับสนุนให้มีการใช้อุปกรณ์ลากลิ่มเลือดในหลอดเลือดสมองที่พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในประเทศและต่างประเทศ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ร่วมพัฒนาด้วย ทำให้ราคาลดลงกว่าครึ่งโดยอยู่ที่ 40,000 บาท

ทั้งนี้ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เป็นโรงพยาบาลแรกๆ ที่ได้ทดลองใช้อุปกรณ์ลากลิ่มเลือดในหลอดเลือดสมองที่พัฒนาขึ้นในประเทศ ในการรักษาผู้ป่วย และจากการเก็บข้อมูลทางคลินิก ยืนยันว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพไม่ด้อยกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ และได้ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และบัญชีนวัตกรรมไทยเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ยังเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกที่เบิกจ่ายชดเชยค่าอุปกรณ์นี้จาก สปสช.


“ผ่านมามีผู้ป่วยด้วยภาวะนี้ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ประมาณ 100-200 คนต่อปี วันนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการช่วยให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตันเฉียบพลัน สิทธิบัตรทอง ให้เข้าถึงการรักษาได้เพิ่มมากขึ้น  จากการประหยัดงบประมาณ และยังเป็นการสนับสนุนเครื่องมือแพทย์ที่ผลิตในประเทศ ที่ ซึ่งที่นี่จะยังเป็นศูนย์ฝึกอบรมให้กับแพทย์ในการใช้งานอุปกรณ์นี้ ซึ่งจะทำให้มีการขยายใช้รักษาผู้ป่วยในวงกว้างต่อไป” ผอ.โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าว

ด้าน นพ.จเด็จ กล่าวว่า ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2567 มีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองสูงถึง 161,155 ราย และส่วนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่มีภาวะอุดตันเฉียบพลัน ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อลดความพิการและเสียชีวิตจากภาวะเฉียบพลันนี้ นอกจากการเข้าถึงการรักษาซึ่งต้องแข่งขันกับเวลาโดยเร็วที่สุดแล้ว การที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูงอย่างชุดอุปกรณ์ลากลิ่มเลือดนี้ ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤตอันรุนแรงได้


สำหรับความร่วมมือที่เกิดขึ้นในวันนี้ สปสช. มีนโยบายพร้อมที่จะส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาระบบบริการ เพื่อให้ผู้มีสิทธิบัตรทองได้รับการรักษาอย่างครอบคลุม และร่วมพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสนับสนุนการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข นอกจากนี้ สปสช. ยังจะสนับสนุนข้อมูลบริการเพื่อกำกับ ติดตาม และประเมินผลโครงการ ให้กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางบริการและศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมถึงประหยัดงบประมาณที่ช่วยสร้างความมั่นคงในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต่อไป