สปสช. เตรียมหารือ 7 สภาวิชาชีพเพื่อพัฒนาระบบบริการหน่วยนวัตกรรมย้ำผู้ป่วยไปรักษาที่ รพ.ตามสิทธิได้เหมือนเดิม ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

www.medi.co.th


หลังบอร์ด สปสช.มีมติปรับระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่ายและคุณภาพบริการของหน่วยบริการนวัตกรรม 30 บาทรักษาทุกที่ สปสช. เตรียมนัด 7 สภาวิชาชีพหารือวางแนวทางพัฒนาร่วมกัน แก้ไขเบิกจ่ายไม่ถูกต้อง และขยายรักษาโรค NCD รองรับผู้ป่วย ย้ำประชาชนยังมี รพ.ประจำตัวตามสิทธิที่ไปใช้บริการได้เหมือนเดิม ไม่จำกัดจำนวนครั้ง


ทพญ.น้ำเพชร ตั้งยิ่งยง ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนบริการปฐมภูมิและการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ภายหลังคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 มีมติให้ปรับระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่ายและคุณภาพบริการของหน่วยบริการนวัตกรรม 30 บาทรักษาทุกที่ ได้แก่ คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม คลินิกการพยาบาล ร้านยาคุณภาพ คลินิกการแพทย์แผนไทย คลินิกกายภาพบำบัด และคลินิกเทคนิคการแพทย์ และได้มอบให้ สปสช. ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ที่กำหนดนั้น สปสช. เตรียมนัดหารือร่วมกับ 7 สภาวิชาชีพการแพทย์และสาธารณสุขเร็วๆ นี้ เพื่อร่วมกันวางแนวทางพัฒนาระบบ แก้ไขปัญหากรณีที่มีการเบิกจ่ายไม่ถูกต้อง และข้อกังวลว่าบริการนวัตกรรมใช้งบประมาณสูง


“มติบอร์ดครั้งนี้คือการทำงานร่วมกับสภาวิชาชีพทั้ง 7 สาขา ทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทันตแพทย์ แพทย์แผนไทย กายภาพบำบัด และเทคนิคการแพทย์ เพื่อทำให้บริการนวัตกรรมมีคุณภาพ โปร่งใส และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า รวมถึงการจัดเครือข่ายหน่วยบริการนวัตกรรมกับหน่วยบริการประจำในพื้นที่ การเชื่อมข้อมูลเข้ากับระบบต่างๆ การยืนยันตัวตน การตรวจสอบหรือ audit 100% เป็นต้น” ทพญ.น้ำเพชร กล่าว


ทพญ.น้ำเพชร กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ผลการตรวจสอบพบว่า มีบางส่วนของหน่วยนวัตกรรมเบิกจ่ายไม่ถูกต้อง ขณะเดียวกันก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเครือข่ายว่า บริการนวัตกรรมใช้งบประมาณสูง จึงจำเป็นต้องทบทวนและปรับระบบให้ชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ ภายใต้มติบอร์ดครั้งล่าสุด ได้กำหนดมาตรการสำคัญ เช่น การเชื่อมโยงข้อมูลบริการกับระบบกลางและหน่วยบริการประจำ การยืนยันตัวตนผู้รับบริการด้วยเทคโนโลยีที่รัดกุมมากขึ้น การตรวจสอบคุณภาพและการเบิกจ่ายแบบเข้มข้น เพื่อให้ใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม


การนัดหารือร่วมสภาวิชาชีพในระยะต่อไป จะมุ่งหารือรายละเอียดเชิงวิชาการและเชิงระบบ เช่น เกณฑ์บริการที่เหมาะสมในแต่ละวิชาชีพ รูปแบบการให้บริการที่สอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพ การใช้นวัตกรรมร่วมกับหน่วยบริการปกติ รวมถึงการออกแบบระบบติดตามและตรวจสอบที่โปร่งใส เป็นธรรมกับผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่ที่ทำงานถูกต้อง


“กรณีที่มีการเบิกจ่ายไม่ถูกต้อง จะมีการปรับปรุงแก้ไขในส่วนนี้ เพื่อไม่ให้กระทบการให้บริการประชาชน และหน่วยบริการนวัตกรรมที่ดำเนินการถูกต้อง ซึ่งการหารือร่วมกับสภาวิชาชีพจะช่วยให้เราวางสมดุลระหว่างการคุมเข้มงบประมาณกับการสนับสนุนการทำงานของผู้ให้บริการแนวหน้าได้ดีขึ้น” ทพญ.น้ำเพชร กล่าว


ทพญ.น้ำเพชร ย้ำว่า การปรับระบบบริการนวัตกรรมครั้งนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อปิดหน่วยบริการ แต่เป็นการปรับให้ระบบมีความยั่งยืน โปร่งใส และตอบโจทย์ประชาชนในระยะยาว โดยเฉพาะการขยายให้หน่วยบริการนวัตกรรมดูแลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เพื่อช่วยลดความแออัดของโรงพยาบาล สำหรับประชาชนยังคงไปรักษาที่หน่วยบริการหรือโรงพยาบาลประจำตัวตามสิทธิได้เหมือนเดิม ไม่มีจำกัดจำนวนครั้ง เพียงแต่การไปใช้บริการที่หน่วยบริการนวัตกรรม ได้แก่ คลินิกเวชกรรม คลินิกการพยาบาล และร้านยาคุณภาพ ในส่วนของเจ็บป่วยทั่วไปหรือเจ็บป่วยเล็กน้อยนั้น เป็นบริการทางเลือกเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้รวดเร็วขึ้น


ทพญ.น้ำเพชร ระบุว่า ระหว่างที่อยู่ระหว่างการปรับระบบการให้บริการของหน่วยบริการนวัตกรรมและหารือร่วมกับทุกภาคส่วนนั้น ประชาชนสิทธิบัตรทองหรือ 30 บาทรักษาทุกโรค ยังคงเข้ารับบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้เหมือนเดิมตามปกติ ที่โรงพยาบาลประจำตัวที่ได้ลงทะเบียนไว้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง